อธิบายขึด อาถรรพ์  ขัดแย้ง

            ที่มีในสวดถอนกะตำโลกาวุฒิ  หมายความว่า (จะใชสำนวลภาษาเหนือ และสำนวลภาษาไทยกลาง  ผสมกัน) ในหมู่สังคมมนุษย์คนเรา ที่อยู่รวมกันเป็นหมู่เป็นชุมชน  เป็นบ้านเมือง  ถ้ามี ขึด  หรืมีอาถรรพ์  (ภาษาไทยว่า ความขัดแย้ง)    ก็อยู่บ่เป็๋นสุขหน้าชื่นต๋าบาน( อยู่ไม่เป็นสุขทุกข์ใจ ) จะเป็นขึดภายในขึดนอก  ก็ตามคนโบราณเก่าก่อนว่า  ให้ทำพิธีจัดการถอนออกเหียให้หมดสิ้นจึงจะอยู่เย็นเป็นสุข  โดยมีการอันเจิน(อันเชิญ)   ๑.พยาพระปิ๊สสะหนูกั๋มมะราจา และ ๒.  พยาพระสะหรี๋    ต๋นมีอิทธิฤทธีเต๋จ๊ะอันยิ่ง  ไต้ลุ่มฟ้าผาบจมปู( ไต้ลุ่มฟ้าทั่วโลกมนุษย์ )   พยาเจ้าทั้ง  ๒  นี้ ย่อมรู้ช่างถอดถอน  สัปป๊ะขึด (สัพพะความขัดแย้ง)  สัปป๊ะเสื่อม ( สัพพะความเสื่อมเสีย )  สัปป๊ะโรค  สัปป๊ะภัย    สัปป๊ะจั๋งไร(สัพพะจัญไร)  สัปป๊ะอุบาทว์  (สัพพะเหตุร้าย)    สัปป๊ะอันจักวินาศฉิบหายตังมวล ต่าง  ๆ   ( ต่อไป  จะขอใช้ภาษานิยมทั่วไป )  เช่นว่า 

ตายเสือกัด   ตายงูกัด    ตายตกต้นไม้    ตายแขวนคอ    ตายตกน้ำ  ตายไฟไหม้ ก็ดี ฯ   แม้นว่าบุคคลผู้ใดหากได้กระทำกรรมอันไม่ดี ( มีพฤติกรรมอันไม่ดี )    มีต้นว่า

            ๑.   เบื่อกระแส ( โปรยยาพิษลงในแม่น้ำ )   ทำให้คนและสัตว์ไม่รู้ไปกินน้ำนั้นแล้วเบื่อตาย กระแสในที่นี้มี   ๒  อย่าง คือ

            ก.   กระแสที่เป็นรูปธรรมคือ  กระแสน้ำ ฯ, 

            ข.   กระแสที่เป็นนามธรรมคือ  หมู่สังคมมนุษย์คนเรานี่เอง   มีความเป็นอยู่กันอย่างปกติสุข   อยู่  ๆ  ก็มีผู้ใดผู้หนึ่งหรือหลายคน  มาพูดมาชักนำหรือมาสร้างเรื่องราว  ทำให้หมู่สังคมมนุษย์เดือดร้อน  อยู่กันไม่เป็นปกติสุข นี่แหละที่ว่าเบื่อกระแส   คือนำเอาเรื่องราวสิ่งที่เป็นภัยอันตรายมาสู่สังคมให้เดือดร้อนนั่นเอง,

๒.  แผ่ตวาน (คือแผ่ ทวาร)  ทวาร แปลว่า ประตูหรือช่องทางที่เข้าออก ผ่านไปมา มี ๒  อย่างคือ  

            ก.   ประตูที่เป็นรูปธรรมคือ เมื่อผู้ใด  มายืนขวางนั่งขวางทวารหรือประตู  ก็จักทำให้เข้าออกเดินผ่านไปมาทางประตูนั้นไม่สะดวก,    

            ข.   ประตูที่เป็นนามธรรมคือ  ช่องทางทำมาหากิน  ความเป็นอยู่ตามปกติสุขของสุจริตชนทั้งหลาย  ก็มีผู้ใดผู้หนึ่งหรือหลายคน  มาขัดขวางช่องทางทำมาหากิน  ขัดขวางความเป็นอยู่ของสุจริตชนทั้งหลาย  ให้ได้รับความเดือดร้อนทุกข์ยากลำบาก   เรียกว่า แผ่ตวานคือ แผ่อำนาจมาทชั่วคือความชั่วร้าย นี่เอง  มันขึดมันอาถรรพ์   

             ๓.   ถมสมุทร  (ถมน้ำมหาสมุทร) 

            ๔.    ขุดธรณี ( ขุดแผ่นดิน ทำลายแผ่นดิน ) 

            ๔.    ยุทธหัตถี(ชนช้าง)

            ๕.    ป้ำต๋าลลานป๊าว (ตัดต้นตาลต้นมะพร้าว)  ตัดต้นหมากตัดรากเครือปู 

            ๖.    ถมห้วยฮ่องน้ำบึงบัง

            ๗.    ถมขุมถมน้ำบ่อ

            ๘.    ปิดปากถ้ำคูหา

            ๙.    ย้ายคันนา(คือโลภแดน) ขึดขัดแย้งผิดศีลธรรมเป็นบาป

            ๑๐.  คดค้าย(ยกย้าย) รั้วบ้าน  (คือโลภแดน)  ขึดขัดแย้งผิดศีลธรรมเป็นบาป

            ๑๑.   ถ่ายคันใด (สลับถอดเปลี่ยนบันใด)

            ๑๒.  ถมจี่ไฟใหม่เก่า(ถมซากกองไฟไหม้ใหม่เก่า)

            ๑๓.  ถ่ายขื่อแปพลิกแวง เสาร์ก๋อน   คือบ้านเรือนอยู่ดี ๆ ถอดถ่ายขื่อแป  พลิกแวงเสาร์ก๋อนอาจทำให้เรือนพัง 

            ๑๔.   หญ้าคาที่มุงบ้านเรือนใหม่เก่า 

            ๑๕.   รีดม้างปราการ กำแพง 

            ๑๖.   แป๋งบ้านโรงเรือนก๋วมหลัก ก๋วมต๋อไม้ ก๋วมน้ำบ่อฮูหลาว ก๋วมจ๋อมปวกบวกควาย 

 ฮิมกอง(ติดถนน)

            ๑๗.   สายน้ำต้องปิ๋วน้ำชน(บ้านอยู่ใกล้แม่น้ำอันตราย)   

            ๑๘.   แป๋งเฮือนก๋วมที่ครกมองหลองข้าวเก่า   ที่ป่าช้าขุมผี 

            ๑๙.   ก๋วมของอันบ่ดีมีต้นว่า  ก๋วมกระดูกกระด้าว  ต๋อหม้อหินอันมีในดิน   ของอันประหลาดฮูปนาคฮูปครุฑกุ๋มภัณฑ์  ฮูปแม่ญิงพ่อจาย  อันท่าน (ผู้อื่น) ฝังหุ่น 

            ๒๐.   เอาไม้ที่ขึดมาแป๋งฆราวาสเย้าเฮือน   ไม้ง้มน้ำงำเงา  เครือเขาเกี้ยว(เถาวัลย์พันเกี่ยว)  ไม้กึ่งตายป๋ายด้วน   ไม้แง่มหางปล๋า   สายตะวันรอดง่า   ไม้ฟ้ผ่าต๋ายจัน(ไม้ต๋ายยืนต้น)  ไม้ตกมันไม้นอนขอนต่าวไม้ที่ก๋างจ๋อมปวกบวกน้ำ   ไม้ต่าวเก๊าเนิ้ง   ไม้ใจ๋ภายใจ๋มุดใจก๋วงปิ๋วป่องฟ้าอมปี้(ไม้ผลุเปลื่อยกลวงในทะลุเป็นรูออกมองเห็นฟ้า  ไม้มีกระพลี้พอกแยกคนละส่วนกัน) 

(นกก๋วมของอันบอย

พูดมาชักนำหรือมาสร้างเรื่ราว  ทำให้หมู่สังคมมนุษย์เดือดร้อน  หรือ     หรือ          สัพพะ