คำสอนปราชญ์โบราณ
เรื่องที่ ๑ คำโบราณ ได้สอนสืบ ๆ กันมาว่า ในโลกของเรานี้ มีอ้ายหง้มฟ้าหรืออ้ายก้มให้ฟ้า (ตัวมันใหญ่คับฟ้า) คนหนึ่งตัวมันใหญ่ ใหญ่มาก ๆ เพียงแต่มันนั่งอยู่เท่านั้น หัวของอ้ายหง้มฟ้า ไม่ถึงฟ้าไม่ชิดฟ้า มีคืบมีศอกเท่าอั้น (แค่นั้น) เวลาอ้ายหง้มฟ้าลุกขึ้น หัวก็ก้มดึ่งลงดิน ก้นจักชิดติดฟ้า ทำให้เป็นทุกข์ลำบากอย่างมาก ๆ จักเดินเที่ยวไปมาในที่ไหน ๆ ก็ไม่ได้ เพราะตัวมันใหญ่คับฟ้านั่นเอง ผลสุดท้าย อยู่ได้ไม่นานก็ตายไป เหลืออยู่เพียงเรื่องเล่าสืบ ๆ กันมาให้รู้เท่านั้น เรื่องอ้ายหง้มฟ้า(อ้ายคับฟ้า หรืออ้ายก้มให้ฟ้า ) นี้ เป็นคติเตือนใจสอนให้รู้ว่า ให้ทุกคนอย่าทำตัวตนให้ใหญ่ ๆ ๆ จะเป็นภัยแก่ให้ตนเอง เหมือนกับอ้ายคับฟ้าที่เล่านี้แลฯ
เรื่องที่ ๒ คำโบราณ เล่าไว้เหมือนกันว่า... การได้กิน การได้ทำ แม้การได้ทำบุญทำการใหญ่ ๆ ถ้าได้คนเดียว โบราณชาวเหนือว่า...มันจั้งแป๊ตั๋วเก่า(คือเป็นภัยแก่ตน) เช่น การทำบุญสร้างสร้างพระอุโบสถ ก่อเจดีย์ สร้างวิหาร เจ้าภาพศาลา พระประธานประจำโบสถ์ เป็นต้น... ถ้าสร้างทำคนเดียวไม่ให้คนอื่นร่วมสร้างบุญด้วย มันจั้งแป๊ตั๋วเก่า (เป็นภัยแก่ตน) อายุบ่ยืนยาว เพราะว่า อานิสงส์ผลบุญ มันแรง ( ที่ว่า อานิสงส์ผลบุญ มันแรง นั้น มันแร็งเพราะบาปไม่ใช่บุญแร็ง เป็นปริศนาสอนคนที่ทำบุญผสมบาป เหมือนถ้วยชามสกปรกไม่ล้างให้สะอาด ใส่อาหารกิน ฉะนั้น ) เรื่องนี้มีเหตุผลอธิบาย ทางจิตวิทยาเตือนให้รู้ คือ ถ้าคนใด ชอบเอาแต่ได้คนเดียว ชอบเอาดีแก่ตัวคนเดียว ชอบเอาเปรียบผู้อื่น โดยไม่แบ่งสัน ปันส่วนให้แก่ผู้อื่น ไม่ให้ผู้อื่นได้มีส่วนร่วมประโยชน์ด้วยนั้น เมื่อมองในแง่บุคคลาธิษฐานก็จะว่า หมั่นไส้ ไม่ชอบใจ ไม่ชอบขี้หน้า ฯ มองในแง่ธรรมาธิษฐาน ก็จะว่า ละโมบตัณหา มานะอวดดี ยกตนข่มท่าน ซึ่งเป็นตัวบาป นำไปสู่ความไม่เจริญ และนำไปสู่อบายภูมิ ฯ
เรื่องที่ ๓ นิทานประยุค คือมีเรื่องเล่าว่า มีสุนัขตัวหนึ่ง มีโชคปากได้กินเนื้อช้างที่ตายกลางแดดตัวหนึ่ง โดยกัดกินที่ก้นตูดช้างตายตัวนั้น แล้วได้เข้าไปในท้องช้าง กินอยู่ในนั้นอย่างมีความสุข นานวันผ่านไปตับไตไส้พุงเนื้อในโพรงท้องช้างข้างในหมดไป หนังช้างเมื่อถูกแดดก็แห้งหดปิดทางออก ขังสุนัขตัวนั้นอยู่ข้างใน เมื่อไม่มีอะไรกิน ก็เห่าหอนแล้ว ก็กัดกินหาง กินเท้า กินตัวของตนแล้วก็ตายอยู่ในนั้นฯ
นิทานประยุค เรื่องนี้ มีเหตุผลอธิบายทางจิตวิทยา ว่า ผู้นำ ผู้ปกครองที่มีความละโมบตัณหา เห็นแก่ได้นั้น แม้แต่ลูกน้องปล้องปลายพรรคพวกของตน ก็จะถูกกดขี่ข่มเหงเอารัดเอาเปรียบจากการปกครองของตน เหมือนสุนัขที่กัดกินหางของตน ดังนี้แล (สำนวนไทย ว่า ทำนาเสร็จฆ่าโคถึก เสร็จศึกฆ่าขุนพล)
! อย่าใจแคบ ศึกษาเรียนรู้ที่ตนชอบ อย่างเดียว
ให้ใจกว้าง ศึกษาเรียนรู้สิ่งที่ตนไม่ชอบ ไปด้วย
เพราะ มีประโยชน์ไม่น้อยกว่ากัน
! ให้ระวังในสิ่งที่ตนชอบ อย่าชอบในสิ่งที่ไม่ใช่ธรรม |