นั่งกรรมฐาน

            ให้เตรียมจัดอาสนะสำหรับนั่งไว้ก่อน เวลานั่งให้ค่อยๆย่อตัวลง พร้อมกับภาวนาว่า นั่งหนอๆ ให้ภาวนาอย่างนี้เรื่อยไปจนกว่าจะนั่งเสร็จเรียบร้อย

            วิธีนั่ง นั้น ให้นั่งขัดสมาธิ คือเอาขาขวาทับขาซ้าย เอามือขวาทับมือซ้าย ตั้งตัวให้ตรงแต่จะนั่งเก้าอี้หรือนั่งพับเพียบก็ได้

            นั่งเรียบร้อยแล้วให้หลับตา เอาสติมาจับอยู่ที่ท้อง เวลาหายใจเข้าท้องพอง ให้ภาวนาว่า พองหนอ ใจที่นึกกับท้องที่พองต้องให้ทันกันพอดี อย่าให้ก่อนหรือหลังกัน เวลาหายใจออกท้องยุบ ให้ภาวนาว่า ยุบหนอ ใจที่นึกกับท้องที่ยุบต้องให้ทันกัน อย่าให้ก่อนหรือหลังกัน

            ข้อสำคัญ ให้สติจับอยู่ที่อาการพอง ยุบ เท่านั้น อย่าไปดูลมที่จมูกและอย่าตะเบ็งท้อง ให้นั่งภาวนาอย่างนี้ตลอดไป อย่างต่ำประมาณ ๓๐ นาที อย่างสูงประมาณ ๑ ชั่วโมง หรือมากกว่านั้นก็ยิ่งดี

 เวทนา

            ในขณะที่นั่งอยู่นั้น ถ้าเวทนาอย่างใดอย่างหนึ่งเกิดขึ้น เช่น เจ็บ ปวด เมื่อย คัน เป็นต้น ให้ปล่อยพอง ยุบ แล้วเอาสติไปกำหนดที่ เจ็บ ปวด เมื่อย คัน เป็นต้นนั้นพร้อมกับภาวนาว่า เจ็บหนอๆ หรือว่า ปวดหนอๆ สุดแท้แต่เวทนา สุดแท้เวทนาอย่างใดจะเกิดขึ้น เมื่อเวทนาหายแล้ว ให้เอาสติไปกำหนดที่ท้องภาวนาว่า พองหนอ ยุบหนอ ต่อไปอีกจนกว่าจะครบกำหนดเวลาที่ตนกะไว้

 จิต

            ในเวลาที่นั่งอยู่นั้น ถ้าจิตคิดถึงบ้าน ถึงทรัพย์สมบัติ หรือกิจกรรมต่างๆให้เอาสติปักลงที่หัวใจ พร้อมกับภาวนาว่า คิดหนอๆ จนกว่าจะหยุดคิด เมื่อหยุดคิดแล้วให้กลับไปกำหนด พองหนอ ยุบหนอ ต่อไปอีก

            แม้ดีใจ เสียใจ โกรธ เป็นต้น ก็ให้กำหนดเช่นกัน คือ ถ้าดีใจก็กำหนดว่า ดีใจหนอๆ ถ้าเสียใจก็กำหนดว่า เสียใจหนอๆ ถ้าโกรธก็ให้กำหนดว่า โกรธหนอๆ จนกว่าความโกรธนั้นจะหายไปเป็นต้น

  เสียง

            ในขณะที่นั่งอยู่นั้น ถ้ามีเสียงดังหนวกหู ให้ใช้สติกำหนดที่หูภาวนาว่า ได้ยินหนอ ๆ จนกว่าจะหายหนวกหู เมื่อหายหนวกหูแล้วให้ไปกำหนด พอง ยุบ ต่อไป