พระอรหันต์ทั้งหลายไม่ได้อยู่หน้าคอมพิวเตอร์
พระจักรกริช โสภณ
บัณฑิตวิทยาลัยมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
พระอรหันหน้าคอมพิวเตอร์ เป็นส่วนหนึ่งของผู้ทำดี หรือผู้ก่อการบุญ เป็นช่องทางหนึ่งในการเพิ่มโอกาสให้ผู้ที่ต้องการ ไหว้พระศึกษาพระธรรม ผู้ที่ไม่เวลาเดินทางไปวัด หรือผู้ที่ต้องการไหว้พระศึกษาพระธรรม อย่างฉับพลันทันใด ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดๆ ก็ตาม จะได้มีโอกาสเข้ามาไหว้พระศึกษาพระธรรม ด้วยแรงจูงใจในการเรียนรู้ดึงดูดความสนใจโดยการใช้คอมพิวเตอร์ เพื่อปฏิบัติสัมพันธ์ในการเสริมสร้างปัญญา หาข้อมูลได้ด้วยตนเองในบทเรียน มีการแก้ปัญหา และการฝึกคิดหาเหตุผลตามทัศนคติเพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์ในการเรียนรู้อย่างรวดเร็ว
การที่จะเป็นพระอรหันต์หน้าคอม คือการดูจิตอาจเป็นเรื่องแปรกประหลาดสำหรับคนร่วมสมัย เพราะว่าเราถูกสอนให้ยึดติดในโลกของวัตถุสิ่งภายนอก สิ่งสวยงาม ผู้หญิง ผู้ชาย คอมพิวเตอร์ หรือภาพยนตร์ แต่เราไม่เคยถูกสอนให้ดูจิต หรือแม้ดูตัวเอง เพราะดูตัวเองแล้วไม่สนุก แต่สำหรับผู้ที่เข้าใจดีอยู่แล้ว การดูตัวเองนั้นเป็นการลับสติชั้นสูง เพราะการที่เราเข้าใจจิตใจมนุษย์คนหนึ่งนั้น คือตัวเราเท่ากับเราเข้าใจสายสัมพันธ์ของมนุษย์ชาติ อีกทั้งปมปัญหา และขุมทรัพย์ที่ซ่อนอยู่ในตัวเองของทุก ๆ คน เข้าใจอย่างลึกซึ้งจนสามารถบรรลุ เป็นพระอรหันต์ได้ในทุกที่ทุกเวลาทุกขณะ ไม่ใช่อยู่ในเพียงวัดวาอาราม ป่าเขา หรือการปลีกวิเวก หรือห้างสรรพสินค้า โรงภาพยนตร์ หรือคอมพิวเตอร์
ชีวิตเป็นสิ่งล้ำค่า ร่างกายเป็นป้ายของความรู้สึก เป็นเครื่องมือที่ดีที่สุดในการ ส่องทางอันมึดมิด บุคคลเมื่อรู้ตัวแม้รู้อนาคต เขาก็พอจะเอาตัวรอดได้ ประหนึ่งหิ่งห้อยน้อย มีแสงวอบแวบที่ตัวเอง สามารถบินเข้าสู่หุบเหวที่มืดมิดได้อย่างอิสระ ทั้ง ๆ ที่ไม่อาจรู้ที่สุดของตัวเองได้ ความรู้สึกตัวน้อย ๆ นั้นและจะเปล่งปลั่งขึ้นเมือโลกมืดมิด เหมือนตะเกียงที่จุดตอนกลางวันนั้นดูไร้ค่า แต่ครั้นเวลาโพล้เพล้ แสงเรืองรองเริ่มปรากฎทั้ง ๆ ที่เป็นตะเกียงดวงเดิม แสงก็เท่าเดิมทุกประการ ยิ่งดึกยิ่งมืด ความเปล่งของแสงสว่างก็เรื้องรองขึ้น ฉันใดความรู้สึกตัวน้อย ๆ ที่เราเป็นอยู่นั้นจะทำกิจจนวินาทีสุดท้ายของชีวิต
ความศักดิ์สิทธิ์นั้น ทุกอย่างขึ้นอยู่กับศรัทธาของคุณ ธรรมะ และพุทธะ ที่จริงแล้วอยู่ในตัวทุกคนที่เป็นชาวพุทธ ไหว้พระศึกษาพระธรรมหน้าคอมพิวเตอร์ เป็นเพียงส่วนหนึ่ง ในการช่วยให้เราสามารถ นำความศรัทธาที่อยู่ในตัวเราเอง ออกมาใช้ด้วยวัตถุประสงค์ที่เราต้องการ เช่น เพื่อทำใจให้สงบ เพื่อขอพร เป็นต้น เราอย่ามองว่าเรากำลัง ศรัทธาคอมพิวเตอร์ สิ่งที่เรากำลังศึกษาอยู่คือ พระพุทธ ในคอมพิวเตอร์ คอมพิวเตอร์เป็นเพียงอุปกรณ์ที่ทำให้เกิดภาพพระพุทธและพระธรรม เช่นเดียวกับว่า เมื่อเราศึกษาพระธรรมไหว้ภาพพระพุทธที่พิมพ์ลงบนกระดาษ หรือ พระพุทธรูป ที่สร้าง จากโลหะ หรือวัสดุอื่นๆ ขณะที่เราไหว้และศึกษาอยู่นั้น เราคิดถึงเพียงกำลังศึกษาพระพุทธไหว้พระธรรมอยู่ ไม่ได้คิดว่าเรากำลังศึกษาคอมพิวเตอร์ เพราะฉะนั้น ทุกอย่างอยู่ที่เจตนา
ในศาสนาพุทธเป็นศาสนาที่ว่าด้วยสัจธรรมความจริง ของจริงมีอยู่ในกาย ในใจของทุกคน สภาพความเป็นจริงของกายโดยพื้นฐานแล้ว สัตว์ทั้งหลายมีอาหารเป็นที่ตั้ง ทุกคนต้องกินอาหาร อันนี้คือความจริงอันหนึ่ง ส่วนทางด้านจิตใจนั้นก็มีอารมณ์ความรู้สึกนึกคิดเป็นอาหาร แต่อาหารของจิตใจนั้นแยกออกเป็น ๒ ประเภท
ประเภท ๑ เมื่อจิตได้ลิ้มรสอาหารแล้วทำให้จิตเดือดร้อนวุ่นวาย เกิดความทุกข์ เช่น เรื่องของความรัก พระพุทธเจ้าท่านกล่าวว่า ที่ใดมีรักที่นั่นมีทุกข์ แต่บางคนบอกว่า ที่ใดมีรักที่นั่นมีสุข มันเป็นเพราะว่า เรายังมองชีวิตยังไม่ครบด้าน ยังมองเพียงด้านเดียว แต่ความจริงแล้วมันมีหลากหลายด้าน หากมีรักแล้วที่นั่นยอมเป็นทุกข์ ถ้าเรารักใครสักคน ก็แปลว่า ในใจเราเริ่มยึดติดกับ ตัวเขา ว่า เขา ต้องเป็นคนรักของเรา บางทีเวลาเขา ไปเดิน หรือพูดคุยกับชายคนอื่น เราก็อาจจะหึงหวงเป็นธรรมดา หึงมากๆเข้า ก็กลายเป็นความขัดแย้ง เพราะเราไปยึดติดกับเขามากเกินไป
ประเภท ๒ เมื่อจิตได้ลิ้มรสอาหารแล้วเกิดความสุข สิ่งที่ทำให้จิตสงบเยือกเย็นมีความสุขนั้นได้แก่ธรรมะนั่นเอง เช่น คนที่จะมีศิลบริสุทธิ์ได้ ต้องมีเมตตาและกรุณา เขาจึงเป็นผู้มีอารมณ์จิตเยือกเย็น คนที่เยือกเย็นได้ เพราะเขามีศิลบริสุทธิ์ เมื่อจิตเยือกเย็น สมาธิก็เกิด ความฟุ้งซ่านของจิตก็มีน้อย ก็ชนะนิวรณ์ เมื่อชนะนิวรณ์ อารมณ์จิตก็เป็นฌาน เมื่อฌานสมาบัตสมาธิเกิดขึ้น ปัญญาก็เกิด คือ เห็นทุกข์ เห็นอริยสัจ "บุคคลใดเห็นอริยสัจ บุคลนั้นขึ้นชื่อว่าเห็นพระพุทธเจ้า"
พระอรหันต์เป็นพระผู้ประเสริฐ คนเราทั้งหลายพยายามค้นหาพระผู้ประเสริฐเพียงหวังที่จะยึดท่าน เกาะผ้าเหลืองท่าน เกาะหลังของท่านเพื่อให้พาไปสู่ความสุข แม้ว่าท่านจะอยู่ห่างไกลลึกลับอยู่ในป่าเขาไกลสุดขอบฟ้า คนเราก็ยังอุตสาห์ดั้นด้นดิ้นรนไปหา เพียงหวังที่จะได้ทำบุญกับพระอรหันต์ เพราะคนทั้งหลายเชื่อว่าการได้ทำบุญกับพระอรหันต์ถือว่าเป็นลาภอันประเสริฐ ด้วยเหตุนี้ทุกคนจึงเสาะแสวงหาแต่พระอรหันต์ แต่ความจริงแล้วทุกคนมีพระอรหันต์อยู่ใกล้ตัว แต่เรากลับมองไม่เห็นเหมือนใกล้เกลือกินด่าง อันน้ำใจของพ่อแม่ที่ให้ต่อลูก มีแค่ความบริสุทธิ์ ไม่คิดหวังสิ่งใดตอบแทน เช่นเดียวกับน้ำใจของพระอรหันต์ที่มีจิตใจอ่อนโยนมีน้ำใจเอื้อเฟื้อให้เพื่อนมนุษย์พ้นความทุกข์ ความลำบาก เป็นน้ำใจที่บริสุทธิ์ พ่อแม่จึงเปรียบเสมือนพระอรหันต์ของลูก ท่านมีน้ำใจบริสุทธิ์ต่อลูกมากมายนัก
12 สิงหาคม เป็นวันแม่ แม่เป็นหญิงคนหนึ่ง คนที่เรา เรียกว่าแม่ หญิงคนที่ รักเราแท้ ไม่แปรผัน หญิงคนที่ รักเรา เท่าชีวัน หญิงคนนั้น ให้เราเกิด กำเนิดมา หญิงคนนี้ ที่เราควร จะกราบไหว้ หญิงคนที่ เราทั้งหลาย ควรฝันหา หญิงคนนั้น คนที่เรา เรียกมารดา
เนื่องในวันแม่นี้ขอให้คุณแม่ของลูกทุกคนมีสุขภาพแข็งแรง ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ และขอให้แม่มีความสุขตลอดไป ทรงพระเกษมสำราญ
พระอรหันต์หน้าคอมพิวเตอร์นี้มีมาตั้งแต่สมัยพุทธกาล ครั้งนั้นพระพุทธองค์อยู่ที่นิโครธาราม ได้แสดงอภินิหารฝนโบกขพรรษ แล้วจึงทำการแสดงธรรม ถ้าเป็นภาษาร่วมสมัย ก็คือพระพุทธองค์ไช้สือในการแสดงธรรม ในยุคสมัยปัจจุบันการใช้คอมพิวเตอร์ ประกอบการแสดงธรรม หรือศึกษาธรรม เป็นอภินิหารทางเทคโนโลยี ซึ่งพระพุทธองค์ใช้ในทางดึงคนเข้าสู่ธรรม และ การเผยแพรธรรม
-------------------------------------------------------------------------------- |